Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM Lens

Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM แคนนอนผลิตเลนส์ซูมทางยาวโฟกัส 70-200 มม. มาอย่างต่อเนื่อง หลายเวอร์ชั่น โดยในส่วนของเลนส์ 70-200 มม.f/2.8 ผลิตออกมาแล้ว 4 รุ่น ตั้งแต่ EF 70-200mm f/2.8L USM รุ่นแรก (ปี2001) จากนั้นก็ผลิตเวอร์ชั่น IS ออกมาอีก 3 รุ่น โดยรุ่นล่าสุดจะเป็น EF 70-200mm f/2.8L IS II USM ในขณะที่รุ่นแรกก็ยังคงผลิตอยู่จนถึงปัจจุบันเพื่อตอบสนองนักถ่ายภาพที่ต้องการเทเลซูมไวแสงแต่มีงบจำกัด ในส่วนของ EF 70-200mm f/4L USM นั้น แคนนอนผลิตออกมาในช่วงใกล้เคียงกับรุ่น f/2.8L คือ 16-17 ปีแล้ว และยังคงอยู่ในสายการผลิตจนถึงปัจจุบัน รุ่น EF 70-200mm f/4L IS USM นั้นผลิตออกมาตั้งแต่ปี 2006 และอยู่ในสายการผลิตมาจนถึงปีนี้ ทั้งคู่เป็นเลนส์ที่ได้รับความนิยมสูงมาตลอดช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา

แคนนอนได้พัฒนาเลนส์ EF70-200mm f/4L IS USM อีกครั้งในปีนี้ เพื่อให้เป็นเลนส์ที่ตอบสนองการใช้งานร่วมกับกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ๆ ที่มีความละเอียดสูง มีระบบออโตโฟกัสประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม นี่คือที่มาของ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ใหม่ มีอะไรน่าสนใจในการปรับปรุงครั้งนี้มาดูกันครับ

ซ้าย : Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM                                                        ขวา : Canon EF 70-200mm f/4L IS USM

คุณภาพยอดเยี่ยม รองรับกล้องความละเอียดสูง แม้ว่าเลนส์เทเลซูม F2.8 จะเป็นเลนส์ที่มืออาชีพส่วนใหญ่เลือกใช้งาน แต่ก็ใช่ว่านักถ่ายภาพระดับจริงจัง และมืออาชีพหลายๆ ท่านจะต้องการเลนส์ไวแสงเสมอไป หลายคนต้องการเลนส์เทเลซูมที่เล็ก เบา พกพาสะดวก ไม่เป็นภาระในการเดินทางและการใช้งาน แต่ก็ยังต้องการคุณภาพในระดับเยี่ยมยอดอย่างที่มืออาชีพต้องการ ไม่ต้องการประนีประนอมใดๆ ในเรื่องคุณภาพ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ออกแบบมาสำหรับนักถ่ายภาพกลุ่มนี้เลยครับ โดยออกแบบระบบออฟติคใหม่ ด้วยการใช้ชิ้นเลนส์ 20 ชิ้น จัดเป็น 15 กลุ่ม โดยมีการใช้ชิ้นเลนส์ Fluorite 1 ชิ้น และชิ้นเลนส์ที่มีการกระจายแสงตํ่า UD อีก 2 ชิ้น เพื่อปรับแก้ความคลาดสี ให้ภาพที่คมชัดรายละเอียดดีเยี่ยมตลอดช่วงซูม และยังได้คุณภาพเยี่ยมแม้เปิดรูรับแสงกว้างสุด
นิ่งยิ่งกว่า ลดการสั่นไหวได้ถึง 5.0 สตอป เพื่อให้เป็นเลนส์ที่รองรับการทำงานในสภาพแสงน้อยได้ดีเลิศ แคนนอนจึงพัฒนาระบบป้องกันภาพสั่นไหวใหม่ ให้สามารถใช้งานด้วยความเร็วชัตเตอร์ตํ่ากว่ากฎ 1/ ทางยาวโฟกัสได้สูงถึง 5 สตอป โดยพัฒนาหน่วยงานประมวลผลในเลนส์ใหม่ให้สั่งการทำงานได้เร็วขึ้น โดยที่ช่วง 200มม. สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/8 วินาที แบบหวังผลในเรื่องความคมชัดได้ เมื่อถือกล้องด้วยมือ จึงเป็นเลนส์ที่ได้ให้ความคล่องตัวสูงเมื่อใช้งานภาคสนาม โดยเฉพาะการเดินทาง ระบบลดการสั่นไหวทำงานได้ถึง 3 โหมด คือ
โหมด 1. สำหรับการถ่ายภาพซับเจกต์ที่อยู่นิ่งๆ
โหมด 2. สำหรับการถ่ายภาพ Panning
โหมด 3. จะช่วยให้การแทรคกิ้งของเลนส์รวดเร็วกว่าโดยระบบป้องกันภาพสั่นไหว จะไม่ทำงานในจังหวะกดปุ่มชัตเตอร์ครึ่งหนึ่ง เหมือนโหมด 1 และ 2 การมองภาพและเคลื่อนกล้องตามภาพจึงสะดวกกว่า โดยระบบ IS จะทำงานทันทีที่คุณกดปุ่มลั่นชัตเตอร์สุด จึงเหมาะกับการถ่ายภาพแอคชั่นที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในหลายทิศทางรวมทั้งการแพนกล้อง
ลุยได้ทุกสภาพอากาศ เพื่อรองรับการทำงานของมืออาชีพ EF 70-200mm f/4L IS II USM จึงออกแบบโครงสร้างให้มีความแข็งแกร่งสูง มีการซีลรอบตัวเพื่อป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า เลนส์ชิ้นหน้าเคลือบผิวแบบ fluorine เพื่อป้องกันหยดนํ้า นํ้ามันและคราบรอยนิ้วมือ (ทำความสะอาดได้ง่ายๆ ด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์) เลนส์รุ่นนี้จึงสามารถทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ
โฟกัสใกล้ อัตราขยายสูง EF 70-200mm f/4L IS II USM พัฒนาระบบโฟกัสให้เข้าใกล้ได้มากขึ้นจาก 1.2 เมตร เป็น 1.0 เมตร ให้อัตราขยายสูงถึง 1:3.7 สามารถถ่ายภาพโคลสอัพวัตถุขนาดเล็กเช่น ดอกไม้ แมลง เครื่องประดับได้ดีขึ้น ใช้งานได้อเนกประสงค์และสนุกขึ้น
ถ่ายย้อนแสงได้ดีกว่าเดิม ด้วยการจัดวางชิ้นเลนส์ Fluorite และ UD รวมทั้งแบบโค้ทผิวเลนส์แบบ SSC (Super Spectra Coating ) ที่พัฒนาขึ้น ทำให้ภาพที่ได้ใสเคลียร์กว่า เมื่อถ่ายย้อนแสง ลดแสงฟุ้งและภาพหลอนให้เหลือน้อยกว่าเดิม
โบเก้สวยงามด้วยไดอะแฟรม 9 ใบ EF 70-200mm f/4L IS II USM ใช้ไดอะแฟรมทรงกลม 9 ใบ ให้โบเก้ที่สวยงาม สะดุดตา ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ให้ผลที่ดีมากทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
โฟกัสเร็วและแม่นยำ ด้วยการใช้หน่วยประมวลผลในเลนส์ใหม่ การทำงานร่วมกับระบบออโตโฟกัสจึงเร็วมากทั้งการออกตัว การแทรคเข้าสู่จุดชัดและการล็อกที่จุดชัด ทุกขั้นตอนทำได้เร็วและแม่นยำสูงและยังเงียบกว่าเดิม
ดีไซน์ใหม่ เลนส์รุ่นนี้ออกแบบภายนอกได้สวย ถูกใจผมมากครับ การใช้สโลปบนวงแหวนซูมทำให้การปรับซูมทำได้ถนัดมือ วงแหวนโฟกัสมีขนาดใหญ่ขึ้น ตัวเลนส์ยาวกว่าเดิม 4 มม. นํ้าหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คือ 780 กรัม (รุ่นเดิม 760 กรัม) สีของเลนส์ขาวผ่องกว่าเดิม ฮูดมีขนาดเล็กกว่าเดิมมาก ออกแบบได้ลงตัวขึ้น สวยขึ้น ไม่เกะกะเมื่อเก็บลงในลงกระเป๋ากล้อง

---

ผลการใช้งาน

ระบบออโตโฟกัสที่ตอบสนองเร็วและโฟกัสได้แม่นยำช่วยเพิ่มโอกาสการได้ภาพจังหวะดีๆ ช็อตนี้ผมยกกล้องขึ้นถ่ายแบบรวดเร็ว กล้องและเลนส์ตัวนี้แทรคเข้าจุดโฟกัสได้เร็วมาก ภาพคมกริบ กล้อง Canon EOS 6D Mark II เลนส์ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ; 1/1250 Sec f/4 , WB : Auto , Mode : M , Focus mode : AI Servo , Zone AF , Drive : Continue High , ISO400

ผมได้รับเลนส์รุ่นนี้มาพร้อมกับกล้อง 2 ตัว คือ EOS 5DS R และ EOS 6D Mark II โดย EOS 5DS R จะใช้ในการทดสอบความคมชัด การถ่ายทอดรายละเอียด ส่วน EOS 6D Mark II สำหรับการการใช้งานทั่วไป ภาพบันทึกด้วยไฟล์ RAW + JPEG ไฟล์ RAW แปลงด้วยซอฟท์แวร์ DPP ของแคนนอน ในส่วนของการจับถือและควบคุม ต้องบอกว่าดีเยี่ยม แคนนอนไม่พลาดในการออกแบบภายนอก การใช้วงแหวนซูมขนาดใหญ่ มีสโลปวางอยู่ก็ปรับโฟกัสแมนนวลได้สะดวกและปรับได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องปรับสวิทซ์ AF/M นํ้าหนักเลนส์ 780 กรัม ของเลนส์ทำให้การถือกล้องทำได้สบายมือ โดยเฉพาะเมื่อใช้กับ EOS 6D Mark II ลงตัวมากครับ การปรับซูมทำได้ราบเรียบ นุ่มนวล หนืดกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย ซึ่งถูกใจผมมาก ระบบซูมเป็นแบบเลื่อนกลุ่มเลนส์ภายใน ความยาวของกระบอกเลนส์ไม่เปลี่ยนแปลง ระบบโฟกัสเป็นแบบภายในเช่นกัน กระบอกเลนส์ส่วนหน้าไม่หมุนตามการโฟกัส ล็อกช่วงโฟกัสได้ 2 ช่วง เพื่อให้ระบบออโตโฟกัสทำงานได้เร็วขึ้น

ระบบออโตโฟกัสยังคงเป็นจุดเด่นของเลนส์รุ่นนี้ EF 70-200mm f/4L IS USM รุ่นเดิมก็นับว่าเร็วมากแล้ว แต่รุ่นนี้เร็วขึ้นเล็กน้อย แต่ที่ดีกว่าคือล็อกที่จุดชัดในแบบหยุดทันที ไม่มีการ Refocus เมื่อถึงจุดชัด หยุดแบบนิ่งสนิท ทำให้โฟกัสแน่นอนมาก จากการลองกับ EOS 5DS R และ EOS 6D Mark II โฟกัสเข้าเป๊ะๆ ไม่มี Back Focus ใช้งานได้อย่างมั่นใจ การแทรคกิ้งในโหมด AI Servo ก็เร็วและแน่นอนมาก ทำให้มันใช้ถ่ายภาพแอคชั่นได้ดีเลิศ

ลองกับ EOS 5DS R การโฟกัสยังเร็วมาก แทรคซับเจกต์ทันทุกเฟรม รายละเอียดดีเยี่ยม กล้อง Canon EOS 5DS R เลนส์ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ; 1/1600 Sec f/4 , WB : Auto , Mode : M , Focus mode : AI Servo , Zone AF , Drive : Continue High , Picture style : Standard , ISO200

กับ EOS 6D Mark II การถ่ายภาพแอคชั่นเป็นเรื่องง่าย ภาพชุดนี้ผมตั้งระบบโฟกัสของกล้องแบบ AI Servo ตั้งพื้นที่โฟกัสแบบ Auto Selection AF ตั้งระบบถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูงสุด ล็อกช่วงโฟกัสของเลนส์ที่ 3 เมตรถึงอินฟินิตี้ จากนั้นเคลื่อนกล้องตามซับเจกต์ ถ่ายรัวชุดนี้ 14 ภาพ โฟกัสเข้าทุกภาพ กล้อง Canon EOS 6D Mark II เลนส์ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ; 1/1600 Sec f/4 , WB : Auto , Mode : M , Picture style : Standard , ISO400

ในส่วนของคุณภาพนั้นต้องบอกว่าเป็นการปรับสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีกระดับ ในเลนส์รุ่นเดิม คุณภาพก็นับว่าน่าพอใจมากแล้วครับ แต่ใน EF70-200mm f/4L IS II USM สิ่งที่ได้เพิ่มมามีหลายอย่างด้วยกัน คือ ความคมชัดของเลนส์รุ่นนี้ดีเยี่ยมตั้งแต่ช่วง 70 มม. จนถึง 200 มม. โดยที่ช่วง 70 มม. ภาพคมกริบตั้งแต่รูรับแสงกว้างสุด และให้ผลดีเลิศที่ f/5.6 ที่ช่วง 135 มม. ความชัดทำได้ดีมากที่ f/4 และดีเลิศที่ f/5.6 ที่ช่วง 200 มม. ความคมชัดยังน่าประทับใจอย่างยิ่ง แม้เมื่อใช้กับ EOS 5DS R ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่ f/4 ความคมชัดทำได้ดีมาก และดีเยี่ยมที่ f/5.6-f/8 ความคมชัดของเลนส์รุ่นนี้ดีเพียงพอสำหรับการใช้งานในระดับอาชีพในทุกรูปแบบ คมกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อยโดยเฉพาะที่ช่วง 200 มม.

กับ EOS 5DS R เลนส์รุ่นนี้ให้ภาพคมแบบขุดคุ้ยรายละเอียดของขุมขนเลยทีเดียว กล้อง Canon EOS 5DS R เลนส์ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ; 1/25 Sec f/7.1 , WB : 5000K , Mode : M , Picture style : Standard , ใช้แฟลชร่วมกับแสงธรรมชาติ เปิดระบบ IS โหมด 1 , ISO125

EF 70-200mm f/4 L IS II USM ให้ภาพใสเคลียร์มาก ในจุดนี้ต้องบอกว่าดีกว่ารุ่นเดิมครับ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพย้อนแสง แสงฟุ้งน้อยกว่าเดิมอย่างสังเกตได้ อย่างเช่น การถ่ายย้อนแสงจากในอาคารออกไปด้านนอกที่ค่าแสงแตกต่างกัน 5-6 สตอป แสงฟุ้งที่เข้ามายังส่วนซับเจกต์มีน้อย ภาพจึงใสเคลียร์ ในการถ่ายย้อนแสงไฟหรือดวงอาทิตย์ แสงฟุ้งและภาพหลอนก็น้อยกว่าเดิม ภาพจึงใสและความอิ่มสีดี กับการใช้ในทุกสภาพแสง คอนทราสต์ของเลนส์รุ่นนี้ค่อนข้างสูง ดิสทอร์ชันของเลนส์ค่อนข้างน้อย โดยจะมีดิสทอร์ชันแบบโค้งเข้าเล็กน้อยที่ช่วง 135 มม. และ 200 มม. ส่วนเรื่องขอบภาพมืดนั้น ปรากฏเล็กน้อยที่ช่วง 135 มม. ถึง 200 มม. โดยแสงที่ขอบภาพจะน้อยกว่ากลางภาพประมาณ 0.7 สตอป

ระบบโฟกัสแม่นยำ ไม่มี Back Focus และ Front Focus กล้อง Canon EOS 5DS R เลนส์ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ; 1/30 Sec f/6.3 , WB : 5000K , Mode : M , Picture style : Standard , ใช้แฟลช 2 ตัว ร่วมกับแสงธรรมชาติ , เปิดระบบ IS โหมด 1 , ISO125

สิ่งที่พัฒนาไปจากเดิมมากคือ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวครับ ในรุ่นเดิมเมื่อแตะปุ่มลั่นชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่ง ระบบ IS จะทำงานค่อนข้างแรง ภาพจะกระตุก และมีเสียงการทำงานเล็ดรอดออกมา เมื่อปล่อยนิ้วจากปุ่มลั่นชัตเตอร์จะมีเสียงปลดการทำงานด้วย แต่นั่นคือเลนส์ที่ผลิตออกมาสิบกว่าปีแล้วครับ กับเลนส์รุ่นใหม่ระบบ IS ทำงานได้น่าประทับใจมาก นุ่มนวล เงียบ และให้ผลดีเลิศ ผมลองที่ช่วง 135 มม. พบว่าสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/6 ถึง 1/8 วินาที ถ่ายภาพได้คมชัด ที่ช่วง 200 มม. กับความเร็วชัตเตอร์ 1/10 วินาที ก็ยังได้ภาพคมชัด และที่ดีมากคือ นอกจากจะมีโหมด 2 สำหรับการแพนแล้ว ในโหมด 3 ยังเหมาะสำหรับการถ่ายภาพแอคชั่น ซึ่งใช้ประโยชน์ได้มาก ลองใช้แล้วชอบครับ ทำให้การเคลื่อนกล้องตามซับเจกต์ได้ง่าย และระบบ IS ไม่ต้องทำงานตลอดเวลาจึงประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น เป็นเลนส์ที่ใช้งานสนุกมากครับ โดยส่วนตัวผมชอบเลนส์ EF 70-200 mm f/4L IS USM อยู่แล้วเพราะเล็ก เบา พกพา สะดวก พอปรับมาเป็นรุ่น II ต้องบอกว่าประทับใจมาก เป็นเลนส์ที่สวยมาก ให้ภาพดีมาก และระบบออโตโฟกัสเยี่ยมยอด

ระบบป้องกันภาพสั่นไหว IS ใช้ประโยชน์ได้มากเมื่อใช้ความเร็วชัตเตอร์ตํ่า ให้ภาพคมชัดทุกช็อต กล้อง Canon EOS 6D Mark II เลนส์ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ; 1/30 Sec f/4.5 , WB : 5000K , Mode : M , เปิดระบบ IS โหมด 1 , ISO320

---

ความเห็น

คมชัดทุกช็อตเมื่อเปิดระบบ IS กล้อง Canon EOS 6D Mark II เลนส์ Canon EF 70-200mm f/4L IS II USM ; 1/40 Sec f/4 , WB : 5000K , Mode : M , Picture style : Standard , เปิดระบบ IS โหมด 1 , ISO200

เลนส์รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักถ่ายภาพที่ต้องการเลนส์เทเลซูมคุณภาพเยี่ยม แต่ไม่อยากแบกเลนส์หนักๆ นํ้าหนัก 780 กรัมของมันจะทำให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพได้ทั้งวัน ใช้งานได้ดีกับการถ่ายภาพทุกประเภท โดยเฉพาะช่างภาพ Landscape นักเดินทาง และการใช้งานทั่วๆ ไป …ใช้แล้วรักเลย แนะนำเป็นพิเศษครับ

เรื่อง / ภาพ : อิสระ เสมือนโพธิ์
ที่มา : www.fotoinfomag.com