Ricoh GR III Diary Edition Digital Camera
Ricoh GRIII Diary Edition Digital Camera มีการออกแบบตัวกล้องสีเทาเมทัลลิกที่อบอุ่น วงแหวนเลนส์สีเงิน "โทนฟิล์มเนกาทีฟ" ใหม่ อินเทอร์เฟซการปิดเครื่องโดยเฉพาะ การออกแบบสายรัดข้อมือหนังโดยเฉพาะ กระเป๋ากล้องผ้าใบโดยเฉพาะ ที่ปิดhotshoe ชุดคิทมีจำนวนจำกัดเพียง 2,000 ชิ้น และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้
ดูเหมือนว่า GR III จะมีรุ่นลิมิเต็ดใหม่ต่อจากรุ่น Street Edition มีการออกแบบที่อบอุ่นซึ่งดูเหมือนฤดูหนาว และดูเหมือนว่ามีอุปกรณ์เสริมพิเศษติดอยู่ด้วย นอกจากนี้ หน้าจอเฉพาะจะแสดงขึ้นเมื่อปิดเครื่อง และจะเพิ่มตัวควบคุมภาพใหม่ เมื่อพิจารณาดูสีใหม่ถูกนำมาใช้ในเครื่องปัจจุบัน จะเรียกว่า "โทนฟิล์มเนกาทีฟ"
กล้อง Ricoh GR III รุ่นพิเศษ Diary Edition
- ตัวกล้องสี Metallic Warm Gray พร้อมทำผิวตัวกล้องแบบพิเศษ
- กริปจับสี Dark Brown เข้ากันกับสีของตัวกล้อง
- ภาพกราฟิกแบบพิเศษตอนปิดกล้อง พร้อมโลโก้ GR III Diary Edition
- วงแหวน Natural Silver ซึ่งเป็นสีของกล้องรุ่นพิเศษนี้โดยเฉพาะ และเป็นสีที่ไม่มีจำหน่ายแยกทั่วไป (ในชุดจำหน่ายมาพร้อมวงแหวนสีดำอีก 1 วง)
- เซนเซอร์ CMOS ขนาด APS-C 24.24 ล้านพิกเซล
- เลนส์คุณภาพสูง 28mm F/2.8 พร้อมระบบมาโคร 6 ซม.
- ระบบโฟกัสแบบ Hybrid AF หาโฟกัสรวดเร็ว แม่นยำ
- ระบบป้องกันการสั่นไหว SR (Shake Reduction) 4 สตอป
- จอ LCD ระบบสัมผัส ขนาด 3 นิ้ว
- พอร์ต USB-C รองรับการชาร์จกับพาวเวอร์แบงก์
- ความจุภายในตัวกล้อง 2 GB
- เชื่อมต่อเพื่อโอนภาพถ่าย และควบคุมกล้องแบบไร้สายผ่าน App. Image Sync
คุณสมบัติ กล้อง Ricoh GR III Diary Edition
1. Newly designed, high-resolution GR lens
กล้อง GR III ติดตั้งเลนส์ GR ทางยาวโฟกัส 18.3mm ความสว่าง F2.8 ซึ่งมีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูง โดยที่ยังคงมีขนาดเล็กกะทัดรัด ตัวเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 6 ชิ้น แบ่งเป็น 4 กลุ่ม โดยมีทางยาวโฟกัสเทียบเท่าเลนส์ 28mm (ในระบบกล้อง 35mm) ชิ้นเลนส์ภายในนั้นประกอบด้วยชิ้นเลนส์ที่มีดัชนีหักเหแสงสูง (High-refraction) ชิ้นเลนส์ที่ช่วยลดความคลาด (Low-dispersion) รวมถึงชิ้นเลนส์พิเศษอย่าง Glass-molded Aspherical lens ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ช่วยให้เลนส์ถ่ายทอดภาพถ่ายได้อย่างคมชัด และให้ภาพที่ใสที่สุดเมื่อเทียบกับกล้องซีรีส์ GR ที่เคยมีมาทั้งหมด ทั้งยังเป็นเลนส์ที่มีความบิดโค้ง และความคลาดต่ำ แก้ไขอาการแสงแฟลร์ และแสงหลอนที่เกิดจากการถ่ายภาพย้อยแสงได้อย่างดีเยี่ยม ให้ภาพที่มีความเปรียบต่างสูง มีรายละเอียดสูง พร้อมด้วยความสามารถในการโฟกัสใกล้เมื่อใช้ระบบมาโครที่ใกล้เพียง 6 เซนติเมตร ทั้งยังติดตั้งฟิลเตอร์ ND (Neutral Density) ภายในตัวเลนส์ที่สามารถช่วยลดค่าแสงลงได้ถึง 2 สตอป ร่วมด้วยม่านช่องรับแสงที่มากถึง 9 ใบ ที่ช่วยให้เบลอฉากหลังและได้โบเก้ที่สวยงามเป็นธรรมชาติที่ช่องรับแสงกว้าง รวมถึงได้ลำแสงที่สวยงามเมื่อใช้ช่องรับแสงที่แคบลง
2. High-quality, high-resolution images
กล้อง GR III ใช้เซนเซอร์รับภาพขนาด APS-C ความละเอียด 24.24 ล้านพิกเซล โดยเป็นเซนเซอร์แบบ CMOS ที่ไม่มีฟิลเตอร์ AA (Anti-Aliasing) เพื่อช่วยให้เซนเซอร์ได้รับคุณภาพสูงสุดจากเลนส์อยู่เสมอ ร่วมด้วยระบบประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด GR ENGINE 6 ที่ช่วยถ่ายทอดคุณภาพ และรายละเอียดสูงสุดในทุกภาพถ่าย ให้สีสันที่สวยงาม และมีเอกลักษณ์ชวนหลงไหล กล้องรุ่นนี้รองรับการบันทึกไฟล์ภาพแบบ RAW 14-bit และรองรับค่าความไวแสงสูงโดยสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง ISO 102400
3. Hybrid AF system for high-speed autofocus operation
ระบบโฟกัสแบบ Hybrid AF ภายในกล้องรุ่นนี้ คือ การทำงานร่วมกันอย่างลงตัวของการโฟกัสแบบ Contrast-type AF ที่มีความแม่นยำสูง และ Phase-detection-type AF ที่มีความรวดเร็ว การทำงานร่วมกันนี้ช่วยให้กล้องสามารถโฟกัส และตอบสนองการต่อการถ่ายภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. Originally developed SR mechanism
・ระบบป้องกันการสั่นไหว SR (Shake Reduction) ทำงานแบบ 3 แกน และมีประสิทธิภาพในการช่วยลดการสั่นไหวได้ถึง 4 สตอป โดยระบบจะตรวจสอบ วิเคราะห์ และชดเชยการสั่นไหวที่เกิดขึ้นให้ลดน้อยลงเมื่อกดชัตเตอร์
・ฟังก์ชั่น AA Filter Simulator* ภายในกล้องทำงานโดยการขยับเซนเซอร์รับภาพอย่างแม่นยำในระดับพิกเซลในขณะที่บันทึกภาพ เพื่อจำลองผลของภาพให้เสมือนว่ากล้องยังคงมีฟิลเตอร์ AA (Anti-Aliasing) อยู่ การทำเช่นนี้เพื่อช่วยลดอาการลายเสื่อ (Moiré) ที่อาจเกิดขึ้นบนบางวัตถุในภาพถ่าย โดยฟังก์ชั่นนี้สามารถเลือกเปิด/ปิด และเลือกระดับการทำงานได้ตามต้องการ
* ฟังก์ชั่นนี้ใช้ได้ที่ความเร็วชัตเตอร์น้อยกว่า 1/1000 วินาที เท่านั้น
5. Compact, functional body design
แม้ว่าตัวกล้อง GR III จะใช้เซนเซอร์ที่มีขนาดใหญ่แบบ APS-C แต่ยังคงสามารถออกแบบตัวกล้องได้เล็กกะทัดรัดอย่างไม่น่าเชื่อ โดยกล้องรุ่นนี้มีขนาดเล็กเท่ากับกล้องรุ่น GR DIGITAL IV ในอดีตที่ใช้เซนเซอร์ขนาดเพียง 1/1.7 นิ้วเท่านั้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำแนวคิดการออกแบบกล้องซีรีส์ GR ที่เน้นเรื่องความกะทัดรัด และความสะดวกในการพกพาให้ก้าวข้ามขีดจำกัดขึ้นไปอีกขั้น ในขณะที่ตัวกล้องยังคงรักษาความยอดเยี่ยมในเรื่องการจับถือ และการควบคุมกล้องที่สามารถทำได้อย่างสะดวก ด้วยการจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ ในตำแหน่งที่ลงตัว มีระบบเมนูที่เข้าถึงง่ายจอระบบสัมผัส ทั้งยังมีความเรียบง่าย และเป็นมิตรกับช่างภาพทุกระดับ ออกแบบให้มีความพร้อมถ่ายภาพในทันทีที่นำกล้องยกขึ้นด้วยความเร็วในการเปิดกล้องเพียง 0.8 วินาที จึงไม่พลาดจังหวะสำคัญที่อาจเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว นอกจากนี้ตัวกล้องยังใช้แมคนีเซียมอัลลอยย์ขึ้นรูปเป็นเฟรมกล้องทั้งชิ้น ซึ่งเป็นวัสดุคุณภาพสูง มีน้ำหนักเบา และมีความทนทาน
6. High-definition LCD monitor with intuitive touch-screen operation
กล้อง GR III ติดตั้งจอแสดงผลขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1,037,000 พิกเซล และเป็นครั้งแรกของกล้องซีรีส์ GR ที่ใช้จอภาพระบบสัมผัส ซึ่งมีส่วนช่วยให้สามารถควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ในตัวกล้องได้สะดวกยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น การย้ายกรอบโฟกัส การเลือกเมนูต่างๆ การขยายภาพ และการชมภาพที่ถ่ายแล้วก็สามารถทำได้สะดวกกว่าที่เคย จอแสดงผลนี้เป็นแบบ Air Gapless คือ ไม่มีช่องว่างด้วยการเติมเรซิ่นชนิดพิเศษระหว่างตัวจอ และกระจกที่ปกป้องด้านบนสุด เทคนิคนี้จะลดแสงสะท้อน และการกระจายแสงของจอช่วยให้สามารถมองภาพ และเมนูต่างๆ ได้อย่างชัดเจนแม้ในกลางแจ้ง ทั้งยังมีระบบ Outdoor View Setting ที่สามารถปรับความสว่างของจอให้เหมาะสมกับสภาพแสงในสถานที่นั้นๆ ได้
7. Image Control function to produce desire visual effects
กล้อง GR III มีฟังก์ชั่น Image Control ที่สามารถปรับโทนสี และคาแรคเตอร์ต่างๆ ในภาพถ่ายได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถเลือกปรับได้มากถึง 10 ตัวเลือก อาทิ ความสดใสของสี, โทนสี, ความเปรียบต่าง และเกรนภาพ* ด้วยอิสระในการปรับตั้งค่าเหล่านี้ จึงสามารถสร้างสไตล์ของภาพตามที่ต้องการได้อย่างง่ายได้ และสามารถสร้างชุดของการตั้งค่าที่ต้องการเก็บไว้เลือกใช้ในฟังก์ชั่นนี้เพิ่มเติมได้อีกด้วย
* ตัวเลือกนี้จะมีเพิ่มเติมผ่านการอัพเดตเฟิร์มแวร์
8. Bluetooth® and wireless LAN dual communication
กล้อง GR III มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายที่ครบถ้วนทั้ง Bluetooth® และ Wi-Fi เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้ง่าย และมีความเสถียรสูงผ่านแอปพลิเคชั่น Image Sync ซึ่งสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น แสดงภาพจากกล้อง, ควบคุม และสั่งถ่ายภาพ, โอนถ่ายภาพจากในกล้อง เป็นต้น สำหรับ Bluetooth นั้นจะมีส่วนช่วยในการเชื่อมต่อให้มีความเร็ว และง่ายกว่าเคย ทั้งยังสามารถแนบข้อมูลของตำแหน่งที่ถ่ายภาพลงในภาพได้ด้วยโดยอาศัยการส่งข้อมูลจากแอปพลิเคชั่น Image Sync ที่ใช้งานคู่กัน
9. คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ
・บันทึกภาพเคลื่อนไหว Full HD (1920 x 1080 พิกเซล, ที่ 60 เฟรม/วินาที) ที่รูปแบบ H.264
・โหมดครอปภาพ เทียบเท่ามุมมองจากเลนส์ 35mm (15 ล้านพิกเซล) หรือ 50mm (7 ล้านพิกเซล) ในระบบกล้อง 35mm
・ปุ่ม ADJ และปุ่ม Fn ที่สามารถปรับเปลี่ยนค่าต่างได้หลากหลายตามต้องการ
・ระบบ In-camera RAW Development ที่ช่วยในการปรับแต่งค่า และแปลงไฟล์ RAW ได้ภายในตัวกล้อง
・ฟังก์ชั่น Color Moiré ที่ช่วยลดอาการลายเสื่อ (Moiré) ที่เกิดขึ้นในภาพได้หลังจากที่ถ่ายภาพแล้ว
・โหมด Interval Composite ที่สามารถบันทึกภาพทิวทัศน์ต่างๆ ควบคู่ไปการเคลื่อนที่ของดวงดาวได้อย่างลงตัว
・ระบบ Electronic Level ภายในกล้องเพื่อการตรวจสอบระนาบต่างๆ ในการตั้งกล้องได้อย่างแม่นยำ
・รองรับเลนส์เสริมมุมกว้างรุ่น GW-4 (อุปกรณ์เสริม) ที่ช่วยให้เลนส์มีทางยาวโฟกัสกว้างขึ้นเป็น 21mm
・รองรับการใช้งานกับแฟลชของ PENTAX ได้เต็มระบบ*
* รองรับแฟลชรุ่น AF540FGZ II, AF360FGZ II, AF540FGZ, AF360FGZ AF201FG และ AF200FG