EOS R6 Mark II ผลิตวิดีโอคุณภาพระดับ 4K ที่น่าทึ่งได้อย่างสมบูรณ์แม้บันทึกด้วยเฟรมเรทสูง 60 เฟรมต่อวินาที (60p) โดยการบันทึกวิดีโอจาก 6K Oversampling ที่นำอัลกอริทึม Debayer สำหรับการสร้างสีที่สมบูรณ์จากไฟล์ RAW บนระบบ CINEMA EOS มาใช้งาน ทำให้ได้ไฟล์วิดีโอคุณที่มีความคมชัดสูงและสัญญาณรบกวนภาพต่ำกว่าการบันทึก 4K โดยตรง
[row]
[col span="6" span__sm="12"]
[ux_image id="218286"] 180p FHD เติมแต่งเรื่องราวในการเล่าเรื่องของคุณให้น่าตื่นตาตื่นใจด้วยเอฟเฟกต์ Slow-motion จากการบันทึกวิดีโอแบบ Full High Definition (FHD) 180p ที่ให้ความละเอียดสูงเต็มรูปแบบ
โดยทั่วไปเมื่อเปลี่ยนจุดโฟกัสใหม่จะส่งผลให้ทางยาวโฟกัสเปลี่ยนตามไปด้วย ทำให้มุมมองของเฟรมภาพมีการขยับเหมือนอาการโฟกัสไหล กล้อง EOS R6 Mark II ได้รับการแก้ไขปัญหานี้ เมื่อมีการเปลี่ยนจุดโฟกัสมุมมองของเฟรมภาพยังคงเท่าเดิม ทำให้การบันทึกวิดีโอมีความลื่นไหลต่อเนื่อง
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวของ EOS R6 Mark II ช่วยลดการสั่นไหวของกล้องหรือการสั่นไหวที่เกิดขึ้นขณะการเดินเคลื่อนที่พร้อมบันทึกภาพไปพร้อมกัน ดังนั้นคุณจึงสามารถบันทึกภาพให้นิ่งได้แม้ไม่ใช้ขาตั้งกล้อง
[/col] [col span="6" span__sm="12"]
[ux_image id="218292"] พร้อมเสมอสำหรับการสตรีมสด กล้อง EOS R6 Mark II สามารถทำงานเป็นกล้องภายนอกหรือเว็บแคมได้ทันทีโดยไม่จำต้องใช้ไดร์เวอร์หรือแอปพลิเคชันใดเพิ่มเติม เพียงแค่ต่อสาย USB ที่รองรับ USB Video Class/USB Audio Class (UVC/UAC) เข้ากับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ MacOS
[ux_image id="218293"] โหมด Pre-recording ด้วยคุณสมบัติ Pre-recording ซึ่งเป็นโหมดการบันทึกล่วงหน้าของ EOS R6 Mark II คุณจะไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกต่อไป
[ux_image id="218294"] โหมด Hybrid Auto โหมดอัตโนมัติแบบไฮบริดของกล้อง EOS R6 Mark II สามารถช่วยให้คุณสร้างคลิปวิดีโอสั้นๆ สำหรับวันนั้นโดยไม่ต้องทำการบันทึกจริง
ในตัวกล้อง EOS R6 Mark II มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกน ช่วยลดการสั่นไหวของภาพสูงสุด 8 สต็อป คุณจึงสามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดแม้ในที่แสงน้อยโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
[/col]
[/row] [row]
[col span="6" span__sm="12"]
[ux_image id="218300" image_size="medium"]
[/col] [col span="6" span__sm="12"]
นวัตกรรมใหม่สำหรับการประมวลผลไฟล์ RAW
ปลดล็อกศักยภาพของภาพอย่างเต็มรูปแบบเมื่อถ่ายภาพในรูปแบบไฟล์ RAW
คุณสามารถแปลงไฟล์ RAW ได้อย่างง่ายดายภายในตัวกล้อง หรือผ่านซอฟต์แวร์ Canon Digital Photo Professional บนเครื่องพีซี และได้คุณภาพของไฟล์ JPEG ที่สูงยิ่งขึ้นเมื่อแปลงไฟล์ RAW ผ่านระบบ Cloud RAW Image Processing ด้วยการใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกแบบอัตโนมัติในกระบวนการประมวลผลภาพ ภาพที่ได้จึงมีสัญญาณรบกวนภาพต่ำทำให้ไม่สูญเสียรายละเอียดของภาพ
EOS R6 Mark II ยังมีคุณสมบัติที่สามารถเลือกล็อคโฟกัสติดตามดวงตาซ้ายหรือตาขวาได้ (Left/Right Eye Priority Tracking) ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อต้องถ่ายภาพบุคคลในระยะใกล้ที่มีการเคลื่อนที่
ประสิทธิภาพการติดตามเป้าหมายของกล้องเพิ่มขึ้นโดยการนำเทคโนโลยีการประมวลผลอัจฉริยะมาใช้กับการตรวจติดตามเป้าหมาย ด้วยการแยกคุณสมบัติของตัวแบบผ่านการเรียนรู้เชิงลึกแบบอัตโนมัติของปัญญาประดิษฐ์ กล้อง EOS R6 Mark II สามารถติดตามเป้าหมายที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงท่าทาง ทิศทาง หรือความสว่างของสภาพแวดล้อม
[/col]
[/row] [ux_text text_align="center"]
การเชื่อมต่อ
[/ux_text] [row]
[col span="6" span__sm="12"]
[ux_image id="218306" image_size="medium"]
[/col] [col span="6" span__sm="12"]
การเชื่อมต่อแบบมีสายและแบบไร้สาย
เมื่อคุณเชื่อมต่อ EOS R6 Mark II กับอุปกรณ์อัจฉริยะ Android หรือ iOS ของคุณด้วยสาย USB-C ที่เข้ากันได้ หรือเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Wi-Fi (2.4GHz/5GHz) หรือใช้เทคโนโลยีบลูทูธพลังงานต่ำ (BLE) คุณจะสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า ควบคุมชัตเตอร์กล้องจากระยะไกล รวมถึงถ่ายโอนวิดีโอและรูปภาพไปยังอุปกรณ์อัจฉริยะของคุณผ่านแอป Camera Connect ของแคนนอน
สำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ทำงานนอกสถานที่ ยังสามารถถ่ายโอนภาพไปยังเซิร์ฟเวอร์ FTP ระยะไกลโดยใช้แอป Mobile File Transfer
[ux_image id="218310"] กันฝุ่นและละอองน้ำ นอกจากตัวกล้อง Canon EOS R6 Mark II จะกันฝุ่นและละอองน้ำได้อย่างดีแล้ว โครงสร้างตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ให้ความแข็งแกร่งและทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อม
[ux_image id="218314"] ชัตเตอร์ที่มีความทนทานสูง กลไกชัตเตอร์ของ Canon EOS R6 Mark II มีความทนทานต่อการใช้งานเป็นเยี่ยมที่ 400,000 รอบโดยประมาณ คุณจึงสามารถถ่ายภาพต่างๆ ได้อย่างวางใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชำรุดของชัตเตอร์